นายวัชรุน จุ้ยจำลอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เศรษฐกิจฐานรากเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติที่สำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม และเป็นสิ่งสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ประชาชนคนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นและสามารถกระจายรายได้อย่างทั่วถึง จากแนวคิดดังกล่าว กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้มุ่งส่งเสริมและสนับสนุน ผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้างโอกาสทางการตลาด เพ่ิมช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ นำไปสู่การกระจายรายได้และสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ภายใต้นโยบาย MIND ของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เน้นผลักดันปั้นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสู่ความสำเร็จ 4 มิติ และสอดรับกับนโยบายดีพร้อม 4 โต ซึ่ง 1 ในนั้น คือ โตให้ยั่งยืน (Sustainable) ที่เสริมสร้างโอกาสการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้า การทดสอบตลาดเพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในบริบทต่าง ๆ รวมทั้งสนับสนุนปัจจัยเอื้อที่ช่วยให้ธุรกิจนำไปสู่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่เติบโตคู่กับชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันกระแสตอบรับการจัดงานแฟร์ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น รวมถึงงานแสดงสินค้ายังได้ผลการตอบรับและผลตอบแทนอย่างดีมาตลอด ดีพร้อมจึงเลือกที่จะใช้งานแฟร์เป็นเครื่องมือทางการตลาดให้กับชุมชนผ่านการจัดงาน “กาดหมั้ว ครัวฮอม ดีพร้อม เจียงใหม่” ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 หรือดีพร้อมเซ็นเตอร์ 1 (DIPROM Center 1 : DC1) จังหวัดเชียงใหม่

นายวัชรุน กล่าวต่อว่า สำหรับงาน “กาดหมั้ว ครัวฮอม ดีพร้อม เจียงใหม่” จัดขึ้นภายใต้ โครงการตลาดดีพร้อม (DIPROM MARKET) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่กําลังฟื้นตัว โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในรูปแบบงานแฟร์ และส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการที่ได้รับบริการจากดีพร้อม (DIPROM) ได้มีโอกาสเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและกระจายสินค้าของท้องถิ่น ตลอดจนสร้างโอกาสทางตลาดให้กับสินค้าภาคอุตสาหกรรมและโอทอปในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มมากขึ้น อันจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาคได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้สถานที่ที่มีอยู่ของศูนย์ส่งเสริมอุตสําหกรรมภาคที่ 1 หรือดีพร้อมเซ็นเตอร์ 1 ของดีพร้อมให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ดีพร้อมได้มีการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ สมาคมส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการไทย จังหวัดเชียงใหม่ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการภายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยกำหนดจัดงานทุกวันพฤหัสบดี ระหว่างเดือนสิงหาคม – เดือนกันยายน 2566 รวมทั้งสิ้น จำนวน 8 ครั้ง ซึ่งภายในงานมีการจัดแสดงผลงาน และจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ รวมกว่า 150 ร้านค้า จากผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ดีพร้อม (DIPROM) และหน่วยงานเครือข่ายให้การสนับสนุน แบ่งออกเป็น 10 โซน ดังนี้

              1. โซนกาดหมั้ว พบการจำหน่ายสินค้าอาหาร ของกินพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อของจังหวัด อาทิ ไส้อั่ว แคปหมู น้ำพริกหนุ่ม แหนม ไข่ป่าม 3 สหาย ไส้หลวงลุยไฟ ข้าวเกรียบปากหม้อ 3 สี ปิ้งย่าง และอาหารพื้นเมืองอีกมากมาย
              2. โซนสินค้าเกษตรแปรรูป อาทิ เมล็ดกาแฟออร์แกนิค ลำไยสีทองอบแห้ง แมคคาเดเมีย ผักผลไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ชา ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนมถั่วแระญี่ปุ่นอะนาตานิ
              3. โซนเกษตรท้องถิ่น พบกับผักผลไม้ออร์แกนิคจากฟาร์ม อาทิ ลำไย อินทผลัม ผักปลอดสารพิษ รวมถึงผักสวนครัว ต้นไม้นานาพันธ์ที่หายาก  
              4. โซนสินค้าอุตสาหกรรม อาทิ ผลิตภัณฑ์น้ำผึ้ง กระเทียมดอง คุณภาพราคาโรงงาน หน้ากากอนามัย เครื่องฟอกอากาศ
              5. โซนผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน อาทิ ข้าวกล้อง ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากธรรมชาติและความงาม
             6. โซนผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภค-บริโภค อาทิ เครื่องปรุงรสต่าง ๆ น้ำมัน ไข่ ยาสีฟัน
             7. โซนเด็กปั้น DIPROM อาทิ ผลิตภัณฑ์จากผ้ามัดย้อม เสื้อ กางเกง กระเป๋าจากผู้ผ่านการอบรมอาชีพดีพร้อม
             8. โซนแบ่งกันใช้ จำหน่ายสินค้ามือสองคุณภาพดี อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า
             9คำพูดจาก ทดลองเล่น. โซนผลิตภัณฑ์จากผ้าและหัตถกรรม อาทิ ผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้าย ผ้าไหม เสื้อผ้างานปักมือ ผ้าเพ้นท์ และผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากมือ  
             10. โซน Food truck อาทิ โรตีชาชัก ไอติมกะทิสด ผัดไท หอยทอด ลูกชิ้นเห็ดหอม

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมดีพร้อม ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษภายในศูนย์เรียนรู้ต่าง ๆ อาทิ อบรมหลักสูตรเทคนิคการทำลวดลายเครื่องเขินประดับเปลือกไข่ ณ ศูนย์อนุรักษ์หัตถกรรมเครื่องเขินภาคเหนือ การสร้างสรรค์วัสดุธรรมชาติจากไม้ไผ่สู่งานดีไซน์ไลฟสไตล์ ณ ศูนย์เรียนรู้ไผ่ ตลอดจนกิจกรรมร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลอีกมากมายภายในงานทุกวันพฤหัสบดี ระหว่างเดือนสิงหาคม – เดือนกันยายนนี้ โดยการจัดงานในครั้งนี้ ดีพร้อม มุ่งหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างโอกาสทางการตลาด เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า สร้างรายได้ และสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถสร้างกระตุ้นเม็ดเงินสะพัดภายในพื้นที่มากกว่า 15 ล้านบาท นายวัชรุน กล่าวทิ้งท้าย

By admin