บอร์ด ความรัก,ทะเบียนรักสู่ภูเรือ ประสบการณ์ช.. เนื้อหาโดย OneNueng Udompong สวัสดีค่ะ นี่เป็นการตั้งกระทู้แรกในชีวิต เริ่มจากการที่ไปเที่ยวมาแบบเสี่ยงไปแต่ได้ภาพที่น่าประทับใจมากกลับมา เลยอยากมาเล่าและแชร์ประสบการณ์ในการไปเที่ยวครั้งนี้ให้เพื่อนๆ เผื่อเป็นการตัดสินใจในการไปเที่ยวในช่วงหน้าหน้่า(ที่กำลังเริ่มแต่ก็ใกล้จะหมดฤดูหนาวละ 555+) ไปเที่ยวต้นเดือน พ.ย. 58 ที่ผ่านมานะค่ะ เริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ เช้าวันที่ 5 พ.ย. 58 วันนี้คือวันครบรอบแต่งงาน 1 ปี และเป็นเดือนที่ครบรอบ 7 ปี ที่เรากับแฟนรู้จักกันมา วันนี้เลยตั้งใจไปจดทะเบียนสมรสกัน ณ ที่ว่าการอำเภอแถวบ้าน จดเสร็จประมาณเที่ยง เราลางานทั้ง 2 คน ตั้งโปรแกรมจะไปเที่ยวแต่ไม่รู้จะไปไหนนั่งหาที่จะไปเที่ยวในรถในละ บอกกับแฟนอยากไปภูเขา เพราะจะได้ขับรถไปได้ (บ้านเราก็อยู่บนภูนะ ภูพานเลย แฮ่ๆ) นั่งดูข้อมูลและแผนที่สักพัก เราทั้ง 2 ก็เดินทางทันที ออกเดินทางจาก อ.ภูพาน ประมาณ 12.00 น. ด้วยผู้นำทางชั้นเลิศคือ Siri และแผนที่ในโทรศัพท์ และการเดินทางไปครั้งนี้เราไม่มีอุปกรณ์ถ่ายภาพเลย มีแค่โทรศัพท์ที่ติดตัวไป เส้นทางจาก อ.ภูพาน จ.สกลนคร ไป อ.ภูเรือ จ.เลย ราวๆ 400 กม. ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. เพราะอุทยานแห่งชาติภูเรือต้องขับรถออก และเส้นทางก็เป็นแต่ภูเขา เราเลือกไปทาง จ.อุดรธานี เพราะเส้นทางโล่งและใกล้กว่าเส้นทางมีแต่ภูเขา เราก็ไม่รอช้าจับโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทันที จะบอกว่าบ้านเราไม่มีแบบนี้ก็ได้ 555+เส้นทางเริ่มไกลขึ้นเรื่อยๆ และถนนก็ยากขึ้นมีแต่ทางขึ้นเขา และที่สำคัญ น้ำมัน น้ำมัน ใช่น้ำมันกำลังจะหมดและถนนนี้ที่เรามาไม่มีหมู่บ้านหรือปั๊มน้ำมันเลย เริ่มใจไม่ดีเราจะได้พากันเข็นรถ แน่ๆ ขับมาสักพักถึง 3 แยก เจอป้ายบอกทางไป อ.ภูเรือ ใจเริ่มดีขึ้นมันต้องมีปั๊บสินะ มีป้ายบอกมันคงใกล้ถึงแล้วมั่ง แล้วก็เจอปั๊มจริงๆ แต่เป็นปั๊มเล็กๆ น้ำมันก็จะหมดด้วย แฟนเลยตัดสินใจเติมแต่เติม 500 บาท เพราะคิดว่าข้างหน้าต้องมีปั๊มใหญ่เดินทางต่อด้วยเครื่องนำทางอย่าง google map ยิ่งขับไปยิ่งไกล และทางที่นางให้ไปดูเหมือนจะไกลขึ้นทุกที ขับมานานก็เข้า อ.ภูเรือ แต่สิ่งที่ผิดพลาดคือการนำทางของ google map เส้นทางระหว่างเข้าเขตอุทยานแห่งชาติภูเรือ ต้องยูเทิร์นรถกลับไปอีกฝั่งเพื่อเข้าไปอุทยาน แต่! นางบอกให้ตรงไปสิค่ะ ดีนะแฟนมองเห็นป้ายอุทยานพอดีเลยตัดสินใจ ยูเทิร์นรถ เพื่อเข้าอุทยาน อากาศไม่หนาวมีแดด ราวๆ 25 องศา ค่าเข้าอุทยาน 2 คน 50 บาท ถูกดีนะ คงเป็นเพราะยังไม่ถึงช่วง High Season มั่ง ขึ้นไปประมาณ 100 เมตร จะเจอจุดกางเต้นท์แห่งที่ 1 และบ้านพักและจุดบริการอาหาร แต่สำหรับเรากับแฟนคิดว่าข้างบนนะน่าสวยกว่านี้ เลยตัดสินใจขับขึ้นไปจุดกางเต้นท์แห่งที่ 2 แต่ทางขึ้นมันชันและแคบมากและไกลจากจุดแรกมากแต่บรรยากาศดีเห็นภูเขา และมีบ้านพักและจุดบริการอาหารเหมือนกัน สรุปเราเดินทางจาก อ.ภูพาน 12.00 น. ถึง อุทยานแห่งชาติภูเรือ 17.20 น. พอดีกับช่วงพระอาทิตย์ตก พอเรามาถึงลานกางเต้นท์ ให้เราไปติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยาน สำหรับเต้นท์ถ้าเราไม่ได้เอาไปเองก็สามารถเช่าเต้นท์ของอุทยานได้ เต้นท์เปล่า 250 บาท ยังไม่รวมแผ่นรองนอนหรืออุปกรณ์อื่นๆที่เราต้องการ สำหรับเราและแฟนมีเต้นท์ติดไปเลยเสียแค่ค่าเช่าที่ 30 บาท และเช่าแผ่นรองนอนเพิ่มอีก 1 แผ่นจำราคาไม่ได้เพราะแฟนเป็นคนไปเช่า จุดบริการอาหารอยู่ใกล้ๆ ราคาอาหารก็ไม่แพง แฟนเลยไปเช่าเตาถ่านมา สำหรับคนที่มาครั้งแรกเหมือนเราแนะนำถ้าต้องการเช่าเตามาก่อเพื่อให้ความอบอุ่นก็ถืออาหารที่ปิ้งย่างมาด้วยเลย 555+ เสียดายถ่าน เพราะเค้ามีแค่เตาถ่านและเนื้อย่างเกาหลีเป็นชุดให้เราซื้อมาย่าง เวลา 19.00-20.00 น. อุณหภูมิประมาณ 22 องศา ถือว่าไม่หนาวแต่ก็เย็น สำหรับเราและแฟนอาบน้ำเย็นได้สบายเพราะบ้านอยู่ภู 555+ อาบน้ำเสร็จรีบมานั่งข้างเตาไฟทันที นั่งสักพักเริ่มหนาว ดาวเต็มท้องฟ้าไปหมดเหมือนมัน เวลาประมาณ 21.00-22.00 เจ้าหน้าที่จะปิดไฟทุกดวง ยิ่งเห็นดาวชัดมาก แต่ใครที่ดันปวดฉี่หรือปวดหนักจะแย่หน่อยเพราะไฟห้องน้ำก็ปิด ห้องน้ำนี่มืดน่ากลัวเหมือนกัน เดินทางมาเหนื่อยมากและอากาศก็เย็นเลยทำให้เราง่วงแต่ก็นอนไม่หลับเพราะเต้นท์ข้างบนเสียงดังและเต้นท์ข้างๆก็ดันนอนกรนเสียงดังสนั่น ส่วนคุณแฟนก็นอนดูดาวและพยายามถ่ายรูปดาวบนท้องฟ้า แต่ถ่ายไม่ได้เพราะเรามีแค่กล้องโทรศัพท์ กว่าจะหลับลง ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 05.00 น. เพื่อจะตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ตื่นมาไปล้างหน้ากะจะไม่อาบน้ำแต่ติดนิสัยต้องอาบน้ำ อาบมันทั้งๆที่หนาวๆได้แค่แสงไฟจากโทรศัพท์ที่แฟนส่องให้ 05.30 น. ก็ขับรถไปจุดชมวิวที่ยอดภูเรือ พอไปถึงคนมาจากไหนกันเยอะมาก เค้าก็รอขึ้นรถรับส่งพาขึ้นไป คนละ 10 บาท ก็ถือว่าถูกดี แต่แฟนพาเราเดินไปอีกทาง แฮ่ๆ ประมาณว่าไม่ตามคนอื่นไปกันเอง เรากับแฟนไปที่ผาโหล่นน้อย ตอนเช้ามืดเดินเข้าไปทางปูนตามป่าเล็กๆ ก็น่ากลัวเหมือนกัน ไปถึงไม่มีคนอื่นเลย ก็พากันรอดูพระอาทิตย์ขึ้นจากตรงนั้น ซึ่งคนอื่นๆไปดูที่ยอดภูเรือกัน รอดูพระอาทิตย์ขึ้นมองไปจากหน้าผาไหนอ่ะ ทะเลหมอกของฉันนนน รู้สึกผิดหวังเลยแต่ก็นะเราคงมาไม่ถูกช่วง ยืนรอต่อไปหมอกลอยผ่านไปยอดภูเรือจากที่เรากับแฟนยืนอยู่ดูไกลมาก ใสำหรับมุมที่ตั้งและเวลาที่ตั้งถ่ายก็ออกมาได้พอดี และได้เวลาเดินไปยอดภูเรือเส้นทาง 700 เมตร แล้ว ระหว่างข้างทางเดินมายอดภูเรือเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ป่า และต้องมาหยุดกับ การตั้งหิน เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหมายถึงอะไร ในที่สุดก็ถึงยอดภูเรือ โน่นตรงจุดภูเข้าลูกนั่นคือผาโหล่นน้อยที่เราพึ่งเดินมาเมื้อกี้ ยังงง เราเดินมาไกลขนาดนี้เลยหรอ ไม่รี่รอถ่ายรูปให้นายแบบก่อนดีกว่าที่ต้องยืนถ่ายไกลขนาดนี้เพราะกลัวความสูงไม่กล้าไปยืน มาถึงยอดภูเรือเวลาประมาณ 08.00 น. คนอื่นๆเริ่มลงไปหมดและอากาศก็เริ่มเป็นใจ จากที่แดดออกไม่มีหมอกเลยแต่สักพักหมอกเริ่มมาคลุมไปทั่ว สวยมาก นี่เค้าเรียกว่าคุ้มค่าที่สุดแล้ว ไม่เห็นทะเลหมอกแต่ได้ภาพที่มีหมอกฟุ้งกระจายเต็มไปหมด ลงภาพแบบรัวๆเลยเนอะ ถ่ายรูปจนเพลิน จนเหลือแค่เรา 2 คน บนยอดภูเรือ นั่งรอรถมารับแต่ก็ไม่มา 555+ สรุปต้องเดินลงไปเองอีก 700 เมตร และก็ถึงเวลาแพ็คกระเป๋ากลับบ้านกว่าจะถึง อ.ภูพาน จ.สกลนคร หลงทางเพราะคุณสามีเชื่อว่าทางมันต้องเชื่อมโยงกันได้ และ นางSiri นำทางเข้าป่าและเข้าวัด ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ เวลา 21.00 น. สรุปค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมัน 1,500 บาทค่าอาหารและอื่นๆ 1,000 บาท รวม 2,500 บาท ขอบคุณมากที่เข้ามาอ่าน**นี่เป็นการสร้างกระทู้แรก หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ**
@https://www.megadoujin.org/ https www facebook com siamsport 2023 All Copyrights Reserved.
top